ริดสีดวงทวาร (Hemorrhoid) คืออะไร สามารถรักษาได้ด้วยวิธีใดบ้าง

 Home
» Knowledge of Health » ริดสีดวงทวาร (Hemorrhoid) คืออะไร สามารถรักษาได้ด้วยวิธีใดบ้าง แบ่งปันไปยัง facebook

ริดสีดวงทวาร Hemorrhoid

  • ริดสีดวงทวารคือ? (Definition)

ริดสีดวงทวาร (Hemorrhoid)คือ ภาวะที่หลอดเลือดดำบริเวณปลายสุดของลำไส้ใหญ่และทวารหนักมีการโป่งพอง บวมและยื่นออกมาซึ่งสามารถเป็นพร้อมกันได้หลายตำแหน่ง

  • ประเภทของริดสีดวงทวาร (Type of Hemorrhoid)

Internal Hemorrhoid

ริดสีดวงทวาร ที่อยู่ในตำแหน่งเหนือทวารหนักขึ้นไปโดยหลอดเลือดที่โป่งพองอาจจะไม่โผล่ออกมาให้ เห็นและไม่สามารถคลำได้

ㆍหรืออาจมีขนาดใหญ่และสามารถคลำได้

ㆍหรือมีขนาดใหญ่จนต้องดันกลับเข้าไปในทวารหนักภายหลังการอุจจาระ

ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ระยะ คือ

ระยะที่ 1 มีหัวริดสีดวง แต่ไม่ยื่นออกมาทางทวารหนัก อาจมีเลือดสดๆ ขณะถ่ายหรือหลังถ่ายอุจจาระ

ระยะที่ 2 ริดสีดวงโผล่ออกมาขณะเบ่งถ่าย และเลื่อนกลับเข้าไปในทวารหนักได้เองหลังถ่ายอุจจาระ

ระยะที่ 3 ริดสีดวงยื่นโผล่ออกมาขณะเบ่งถ่าย และต้องใช้มือดันกลับเข้าไปในทวารหนัก

ระยะที่ 4 ริดสีดวงยื่นออกนอกทวารหนักตลอดเวลาอาจรู้สึกปวด

External Hemorrhoid

ริดสีดวงทวารหนักภายนอก จะเกิดขึ้นบริเวณปากรอยย่นทวารหนัก

ㆍ จากการที่กลุ่มหลอดเลือดดำใต้ผิวหนังปากทวารหนักโป่งพอง

ㆍ สามารถมองเห็นและคลำได้ หากมีอาการอาจเกิดความเจ็บปวดได้เพราะผิวหนังที่ปกคลุมมีปลายประสาทรับความรู้สึก

  • สาเหตุของริดสีดวงทวาร (Causes)

สาเหตุของการเกิดริดสีดวงทวารยังไม่ทราบแน่ชัดแต่มักพบใน

- Occupation ผู้ที่มีอาชีพที่ต้องยืนนาน ๆ

- เกิดจากโรคแทรกซ้อนของโรคอื่น ๆ เช่น โรคตับแข็ง ซึ่งจะมีอาการท้องมานในระยะสุดท้าย และเมื่อมีน้ำในช่องท้องมาก ๆ จะส่งผลไปกดการไหลเวียนเลือดในช่องท้องเป็นสาเหตุทำให้หลอดเลือดดำไหลกลับเข้าช่องท้องได้ไม่ดีนัก

- ปัจจัยทางพันธุกรรม พบว่า ยืน FOXC2 gene บนโครโมโซมคู่ที่ 16 อาจเกี่ยวข้องกับการเกิดของโรคและเส้นเลือดขอดที่ขา

  • ความเสี่ยงในการเกิดริดสีดวงทวาร (Risk factors)

เมื่อแรงดันในทวารหนักสูงขึ้น เส้นเลือดรอบทวารหนักจะดั่งเลือดและยืดขยายโตขึ้น ทำให้เกิดโรคริดสีดวงทวารแรงดันในทวารหนักจะเพิ่มขึ้นเมื่อ

  1. ท้องผูกเรื้อรัง
  2. ท้องเสีย ถ่ายอุจจาระบ่อยๆฃ
  3. นั่งถ่ายอุจจาระเป็นเวลานาน
  4. เบ่งแรงขณะขับถ่าย
  5. pregnancy การตั้งครรภ์ทำให้ถ่ายอุจจาระไม่สะดวก
  6. โรคตับแข็ง ส่งผลถึงเส้นเลือดดำบริเวณทวารโป่งพอง
  7. ใช้ยาระบาย ยาสวนอุจจาระบ่อยโดยไม่จำเป็น
  8. อายุมาก กล้ามเนื้อหย่อนยาน
  9. ไอเรื้อรัง
  10. Obesity มีภาวะน้ำหนักเกิน
  11. ยกของหนัก ออกแรงมาก
  12. กรรมพันธุ์ มีคนในครอบครัวเคยเป็นโรคนี้
  13. มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก
  14. ไม่ทานอาหารที่มีใยอาหารสูง
  15. ยกและหิ้วของหนักเป็นประจำ

 

  • สัญญาณเตือนและอาการของริดสีดวงทวาร (Signs and symptoms)

External Hemorrhoid มักมีอาการ

ㆍเลือดออก

ㆍผิวรอบทวารบวม

ㆍไม่สบายตัว เจ็บปวด

ㆍอาการระคายเคือง คันบริเวณทวารหนัก

Internal Hemorrhoid มักมองไม่เห็นหรือไม่ทำให้เจ็บ แต่หากต้องเบ่งอุจจาระ อาจมีอาการดังนี้

ㆍ เลือดสดออกทางทวารหนักแต่ไม่เจ็บ อาจมีเลือดหยดลงในโถสุขภัณฑ์หรือบนกระดาษทิชชู

ㆍโรคริดสีดวงแบบมีก้อนยื่นออกนอกทวาร ซึ่งจะรู้สึกเจ็บและระคายเคือง

 

โรคริดสีดวงทวารแบบมีลิ่มเลือด มักมีอาการ

ㆍ บวม

ㆍปวดรุนแรง

ㆍ อักเสบ

ㆍก้อนบวมมีไตแข็งรอบทวารหนัก

 

  • ภาวะแทรกซ้อน (Complications)

Anemia มีภาวะซีด

ริดสีดวงทวารอักเสบที่มีภาวะขาดเลือดร่วมด้วย

ลิ่มเลือด

 

  • การตรวจวินิจฉัย (Diagnosis)

ㆍการซักประวัติและการตรวจร่างกาย

ㆍการตรวจทางทวารหนัก โดยการสอดนิ้วผ่าน รูทวารเพื่อคลำหาก้อนเนื้อในลำไส้ตรง

ㆍ การส่องกล้องตรวจทวารหนักและลำไส้ตรง เป็นการตรวจด้วยการส่องกล้อง โดยใช้กล้องชนิดต่าง ๆ เช่น anoscope, proctoscope หรือ sigmoidoscopy เพื่อตรวจส่วนปลายของลำไส้ใหญ่ซึ่งคลำไม่ถึงหรือไม่พบจากการตรวจด้วยนิ้วทางทวารหนัก

 

  • การรักษาริดสีดวงทวาร (Treatment)
  1. การใช้ยาเหน็บทวาร ครีมทาทวาร (ถ้าซื้อใช้เองไม่ควรใช้นานเกิน 1 สัปดาห์) และรับประทานยาระบายเพื่อลดการอักเสบและการระคายเคือง

  2. การฉีดยาเข้าไปที่หัวริดสีดวงทวาร เพื่อทำให้หัวริดสีดวงยุบลง
  3. การใช้ยางรัด (rubber band ligation) เพื่อรัดให้หัวริดสีดวงหลุดออกและพังผืดที่เกิดจากแผลจะรั้งริดสีดวงที่เหลือให้หดกลับเข้าไปในทวารหนัก

  4. การจี้ริดสีดวงทวารด้วยอินฟราเรด (infrared photocoagulation) เพื่อให้ริดสีดวงทวารยุบลง และหยุดเลือดออก

  5. การจี้ริดสีดวงทวารด้วย bipolar coagulation เพื่อให้ริดสีดวงทวารยุบลง และหยุดเลือดออก

  6. การผ่าตัดริดสีดวงทวารเพื่อตัดหรือเย็บหรือผูกหัวริดสีดวงที่มีอาการ

 

  • การป้องกัน Prevention
  1. รับประทานอาหารที่มีกากใยสูง เช่น รำข้าว ข้าวซ้อมมือ งาดำ ผักและผลไม้ทุกชนิด
  2. ดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว การดื่มน้ำแก้วใหญ่ทันทีหลังตื่นบอนตอนเช้าจะช่วยการขับถ่ายได้
  3. หลีกเลี่ยงอาหารที่อาจระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหาร เช่น อาหารรสจัด อาหารที่ไม่สุกสะอาด
  4. หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ และเครื่องดื่มที่มีแอลกฮอล์
  5. หลีกเลี่ยงการกลั้นหรือเบ่งถ่ายอุจจาระ และควรฝึกหัดการขับถ่ายให้เป็นเวลา
  6. ทำความสะอาดบริเวณทวารหนักภายหลังการขับถ่ายด้วยน้ำ
  7. เพื่อความสะอาดและลดการระคายเคือง
  8. หลีกเลี่ยงการใช้ยาระบายอย่างรุนแรง หรือการสวนถ่ายอุจจาระเป็นประจำจนเป็นนิสัย
  9. หลีกเลี่ยงการยกของหนัก
  10. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้การทำงานของลำไส้ดีขึ้น
  11. พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ
  12. หลีกเลี่ยงความเครียด ทำจิตใจให้ผ่อนคลายอยู่เสมอ

 

  • การรักษาริดสีดวงด้วยเลเซอร์ (Laser Hemorrhoidoplasty)

ㆍเป็นทางเลือกใหม่ในการรักษาที่ได้ผลดี และได้รับความนิยมแพร่หลาย

ㆍเหมาะกับริดสีดวงทวารที่มีเลือดออกโดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยที่มีปัญหาการกลั้นอุจจาระผิดปกติ รวมถึงผู้ป่วยที่ไวต่อความรู้สึกเจ็บปวด และไม่อยากทนกับอาการปวดแผลหลังจากผ่าตัดริดสีดวงทวาร

ㆍเป็นการใช้เลเซอร์จี้ไปที่บริเวณหลอดเลือดที่มาเลี้ยงริดสีดวงทวาร ซึ่งทำให้ริดสีดวงที่มีขนาดใหญ่ฝ่อเล็ก ลงและยุบลงไปโดยไม่กระทบกล้ามเนื้อหูรูดทวารหนัก

ㆍผลข้างเคียงในการรักษาน้อยกว่าการผ่าตัด

ㆍเจ็บน้อย พักฟื้นไม่นาน

ㆍโอกาสกลับมาเป็นซ้ำภายหลังสูงกว่าการผ่าตัดเล็กน้อย

 

 

 

 

ปรึกษาออนไลน์

 นัดหมายรับบริการ

สนใจแพคเกจ 

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ แสดงเนื้อหาและโฆษณาให้ตรงกับความสนใจ รวมถึงเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเว็บไซต์และทำความเข้าใจว่าผู้ใช้งานมาจากที่ใด
คุณสามารถอ่านและทำความเข้าใจได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัวและข้อกำหนดในการให้บริการ