Q : สาเหตุของการเกิดนิ่วระบบทางเดินปัสสาวะ มีอะไรบ้าง?
A : 1. กรรมพันธุ์
2. ความผิดปกติของต่อมพาราทัยรอยด์
3. ความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น การตีบแคบของท่อปัสสาวะ
4. การดื่มน้ำน้อย หรือการสูญเสียน้ำจากร่างกายมาก
5. การรับประทานอาหารที่มีกรดยูริกหรือสารออกซาเลตมากเกินไป
6. การอักเสบติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
7. ยาบางชนิด
Q : อาการสงสัย ว่าอาจเป็นนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ มีอะไรบ้าง?
A : 1. ปัสสาวะลำบากหรือแสบขัด
2. ปัสสาวะไม่ออกหรือมีเลือดปน
3. ปวดบริเวณบั้นเอวหรือท้อง ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของนิ่ว
Q : การตรวจวินิจฉัย นิ่วระบบทางเดินปัสสาวะ มีอะไรบ้าง?
A : 1. การซักประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียด โดยแพทย์เฉพาะทางระบบทางเดินปัสสาวะ
2. การตรวจปัสสาวะเพื่อค้นหาว่ามีเลือดหรือการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ (Urine Analysis)
3. การตรวจอัลตราซาวด์ระบบทางเดินปัสสาวะ เพื่อตรวจหาความผิดปกติ (Ultrasound KUB System)
4. การถ่ายภาพรังสีวินิจฉัย เพื่อดูรูปร่าง ลักษณะ และตำแหน่งของผลึกหรือก้อนนิ่ว (Plain KUB System)
5. การถ่ายภาพรังสีร่วมกับการฉีดสารทึบรังสีเข้าหลอดเลือดดำ (Intravenous Pyelography - IVP)
6. การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์เพื่อดูความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ (CT KUB System)
Q : การสลายนิ่วโดยการใช้คลื่นกระแทก คืออะไร?
A : คือ การใช้คลื่นเสียงความถี่ต่ำส่งผ่านผิวหนังไปยังก้อนนิ่ว เพื่อทำให้ก้อนนิ่วแตกออกเป็นชิ้นเล็กๆ และไหลหลุดออกมากับปัสสาวะได้โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง การสลายนิ่วโดยการใช้คลื่นกระแทก ส่วนใหญ่จะใช้เพื่อการรักษานิ่วในไตและท่อไต
Q : การรักษานิ่วระบบทางเดินปัสสาวะ มีอะไรบ้าง?
A : การรักษาขึ้นกับขนาดและตำแหน่งของนิ่ว นิ่วที่ไม่สามารถหลุดออกมาได้เอง มีแนวทางการรักษาหลายวิธี ได้แก่
1.การรับประทานยาละลายนิ่ว เหมาะสำหรับนิ่วชนิดยูริกที่สามารถละลายได้โดยการให้ยา
2.การสลายนิ่วโดยการใช้คลื่นกระแทก (ESWL: Extracorporeal Shock Wave Lithotripsy)