คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก ชนิดใหม่ ครอบคลุม 4 สายพันธุ์

 หน้าแรก
» ความรู้สุขภาพและบทความแพทย์ » คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก ชนิดใหม่ ครอบคลุม 4 สายพันธุ์ แบ่งปันไปยัง facebook



คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก ชนิดใหม่ ครอบคลุม
4 สายพันธุ์

Q1: วัคซีนป้องกันไข้เลือดออก ชนิดใหม่ ฉีดแล้วป้องกันได้กี่เปอร์เซ็น?

วัคซีนป้องกันไข้เลือดออก ชนิดใหม่ มีประสิทธิภาพในการป้องกันไข้เลือดออกจากทุกสายพันธุ์ได้  80.2% และป้องกันการนอนโรงพยาบาลได้  90.4% ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขประสิทธิภาพที่สูง

Q2: วัคซีนไข้เลือดออกชนิดใหม่ สามารถฉีดในคนอายุเท่าไร ต้องฉีดกี่เข็ม ห่างกันกี่เดือน?
สามารถฉีดได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ที่มีอายุระหว่าง 4-60 ปี โดยฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 3 เดือน

Q3: วัคซีนป้องกันไข้เลือดออกชนิดใหม่ แตกต่างจากวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกชนิดก่อนอย่างไร?
วัคซีนป้องกันไข้เลือดออกที่มีจำหน่ายในประเทศไทยมี 2ชนิด ได้แก่

ชนิดที่ 1: วัคซีนป้องกันไข้เลือดออก ชนิดเดิม ผลิตที่ประเทศฝรั่งเศส ใช้ในผู้ที่มีอายุ 6-45 ปี สามารถฉีดได้เฉพาะคนที่เคยติดเชื้อไข้เลือดออกมาก่อนเท่านั้น หากไม่มีประวัติการติดเชื้อยืนยัน ต้องทำการตรวจเลือดก่อนการฉีดวัคซีน ฉีด 3 เข็ม ห่างกัน 6 เดือน (ที่เดือน 0, 6 และ 12)

ชนิดที่ 2  : วัคซีนป้องกันไข้เลือดออก ชนิดใหม่ ผลิตที่ประเทศเยอรมนี ใช้ในผู้ที่มีอายุ 4-60 ปี สามารถฉีดได้ทั้งในคนที่เคยและไม่เคยติดเชื้อไข้เลือดออกมาก่อน กล่าวคือ ทุกคนสามารถฉีดได้โดยไม่ต้องทำการตรวจเลือดก่อนการฉีดวัคซีน ฉีดเพียง 2 เข็ม ห่างกัน 3 เดือน (ที่เดือน 0 และ 3)
ดังนั้น วัคซีนไข้เลือดออกรุ่นใหม่ฉีดได้ไม่ต้องเจาะเลือดตรวจภูมิ มีความปลอดภัย

Q4: วัคซีนมีความปลอดภัยแค่ไหน ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้มีอะไรบ้าง?

วัคซีนป้องกันไข้เลือดออกชนิดใหม่ มีความปลอดภัย ผลข้างเคียงที่เป็นเพียงผลข้างเคียงทั่วไป ได้แก่ อาการปวดตรงตำแหน่งที่ฉีดวัคซีน ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ โดยส่วนมากมักหายได้เอง ภายในเวลา 1-3 วัน

Q5: ใครบ้างที่ควรได้รับวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก?

โรคไข้เลือดออกสามารถติดได้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกอายุ พบว่าไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็มีความเสี่ยงในการเป็นโรคไข้เลือดออกรุนแรงได้เหมือนกัน ทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศที่มีการระบาด จึงควรได้รับวัคซีนในการป้องกันตนเองจากโรคนี้

Q6: เคยเป็นไข้เลือดออกแล้ว ยังจำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกไหม?

ยังจำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก เนื่องจากโรคไข้เลือดออกสามารถติดซ้ำได้หลายครั้ง เพราะไวรัสเดงกีที่ก่อให้เกิดโรคไข้เลือดออกมีถึง 4 สายพันธุ์ การติดสายพันธุ์หนึ่ง ๆ ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันได้เฉพาะสายพันธุ์นั้น ๆ

ยังพบว่า การติดเชื้อซ้ำครั้งที่ 2 อาจจะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรครุนแรงได้  การฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกจึงเป็นการลดโอกาสในการติดเชื้อ ลดโอกาสในการนอนโรงพยาบาล และลดโอกาสการเป็นโรครุนแรง

Q7: ข้อห้ามใช้ของวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก

เนื่องจากวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกเป็นวัคซีนชนิดเชื้อเป็น ข้อห้ามการฉีดวัคซีนจึงเป็นเหมือนข้อห้ามทั่วไปของการฉีดวัคซีนชนิดเชื้อเป็นอื่น ๆ ได้แก่

มีภาวะภูมิไวเกินต่อตัวยาสำคัญหรือสารเพิ่มปริมาณยาชนิดใดๆ หรือมีภาวะภูมิไวเกินต่อวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกที่ฉีดไปก่อนหน้านี้
ผู้ที่มีภาวะการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันผ่านเซลล์บกพร่องมาแต่กำเนิดหรือในภายหลัง รวมถึงผู้ที่ได้รับการบำบัดรักษาด้วยการกดภูมิคุ้มกัน เช่น ได้รับเคมีบำบัด หรือ คอร์ติโคสเตียรอยด์ชนิดออกฤทธิ์ทั่วร่างกายที่ขนาดยาสูง ภายในระยะเวลา 4 สัปดาห์ ก่อนการได้รับวัคซีน
ผู้ที่มีการติดเชื้อเอชไอวีแบบแสดงอาการ หรือผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีแบบไม่แสดงอาการที่มีหลักฐานแสดงถึงการทำงานของภูมิคุ้มกันบกพร่อง
หญิงตั้งครรภ์
หญิงให้นมบุตร


สามารถเข้ารับวัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออก 4 สายพันธุ์ได้ที่ศูนย์ฉีดวัคซีน
- สำหรับผู้ใหญ่เข้ารับบริการที่ได้ : ศูนย์วัคซีนชั้น 3 อาคาร 1 ชั้น 3
- สำหรับเด็กเข้ารับบริการที่ได้ : แผนกเด็กชั้น 1 อาคาร 2


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือนัดหมายเข้ารับบริการได้ที่ โทร 02-033-2900 ต่อ 3349 ศูนย์วัคซีน
Location / Map : https://goo.gl/maps/BYoLiFXbrJaiz2gH7
FanPage : fb.com/chularat3
Line : @CHG3

 

 

ปรึกษาออนไลน์

 นัดหมายรับบริการ

สนใจแพคเกจ 

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ แสดงเนื้อหาและโฆษณาให้ตรงกับความสนใจ รวมถึงเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเว็บไซต์และทำความเข้าใจว่าผู้ใช้งานมาจากที่ใด
คุณสามารถอ่านและทำความเข้าใจได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัวและข้อกำหนดในการให้บริการ